วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559

ประเทศบรูไน

ประเทศบรูไน

ชื่อ :บรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam แปลว่า ดินแดนแห่งความสงบสุข)

ธงชาติ :
ตราแผ่นดิน :
สัญลักษณ์ต่างๆ มีความหมายดังนี้
- ราชธวัช (Bendera) และพระกลด (PayangUbor-Ubor) หมายถึง สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม (ของทั้งสองสิ่งนี้ นับเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ตามคติบรูไน)
- ปีกนก 4 ขน (Sayap) หมายถึง การพิทักษ์ความยุติธรรม ความสงบ ความเจริญ และสันติสุขของชาติ
- มือสองข้างที่ชูขึ้น (Tanganหรือ Kimhap) หมายถึง หน้าที่ของรัฐบาลที่จะยกระดับความมั่งคั่ง สันติสุข และความวัฒนาถาวรให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
- ซีกวงเดือนหงาย (Bulan) หมายถึง ศาสนาอิสลาม อันป็นศาสนาประจำชาติ

แผ่นที่ :



พื้นที่ :5,769 ตร.กม.
เมืองหลวง :บันดาร์เสรีเบกาวัน (Bandar Seri Begawan) อยู่ในเขต Brunei-Muara
ที่ตั้ง:ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว ทิศตะวันออก ตะวันตกและทิศใต้ติดเขตซาราวัก ประเทศมาเลเซีย โดยพื้นที่ร้อยละ 70 เป็นป่าไม้อยู่ในเขตร้อน ฝนตกเกือบตลอดปี อุณหภูมิประมาณ 24 -32 องศาเซลเซียส พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้เขตร้อน อุดมด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ประชากร มีประมาณ 330,700 คน
เชื้อชาติ : มาลายู 67%  จีน 15%  ชวา ชนพื้นเมือง และ อื่นๆ 18%
ภาษา ราชการเป็นภาษามาเลย์ และใช้ภาษาอังกฤษกันทั่วไปทั้งในราชการ
ศาสนา ศาสนาประจำชาติ คือ ศาสนาอิสลาม (67%) ศาสนาอื่น ๆ ได้แก่ ศาสนาพุทธ (13%) ศาสนาคริสต์ (10%) และฮินดู
สกุลเงิน ดอลล่าร์บรูไน*1 ดอลล่าร์บรูไน เท่ากับประมาณ  23บาทไทย
รายได้ต่อหัวประชากร : 50,440 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี
การปกครอง บรูไนปกครองโดยระบอบกษัตริย์ สมเด็จพระราชาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ และเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม และรักษาการรัฐมนตรีการคลังด้วย
เศรษฐกิจ :บรูไน ส่งออกน้ำมันถึง 90 % รายได้ประชากรต่อหัว 25,200 เหรียญสหรัฐ แต่น้ำมันสำรองเหลืออยู่อีกประมาณ 25 ปี หากไม่พบแหล่งน้ำมันใหม่ในอนาคต จึงเริ่มกระจายการผลิต และส่งเสริมอุตสาหกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากการผลิตน้ำมัน ค่าเงินบรูไนมีความมั่นคงและใช้อัตราแลกเปลี่ยนเดียวกับเงินสิงคโปร์ 1 เหรียญบรูไนเท่ากับ 23 บาท และสามารถใช้เงินสิงคโปร์ในบรูไนได้ทั่วไป
อาหาร :ชาวบรูไนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม จึงไม่รับประทานเนื้อสุกร อาหารบรูไนมักจะมีรสเผ็ดและปกติกินกับข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว อาหารที่เป็นที่นิยมได้แก่ เรินดังเนื้อ นาซีเลอมะก์ และปูเตอรีนานัซ  ของหวานที่นิยมในประเทศบรูไน คือ อัมบูยัต

- เรินดังเนื้อ

-อัมบูยัต (Ambuyat)




-เกอตูปัต (Ketupat)
การแต่งกาย:สตรีชาวบรูไนจะแต่งกายมิดชิด นุ่งกระโปรงยาว เสื้อแขนยาว และมีผ้าโพกศีรษะ คนต่างชาติ จึงไม่ควรนุ่งกระโปรงสั้น และใส่เสื้อไม่มีแขน ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง เพราะถือเป็นสีของพระมหากษัตริย์


การทักทาย และคำบอกรัก :การทักทายจะจับมือกันเบา ๆ และสตรีจะไม่ยื่นมือให้บุรุษจับ การชี้นิ้วไปที่คนหรือสิ่งของถือว่าไม่สุภาพ แต่จะใช้หัวแม่มือชี้แทน และจะไม่ใช้มือซ้ายในการส่งของให้ผู้อื่น สตรีเวลานั่งจะไม่ให้เท้าชี้ไปทางผู้ชาย และไม่ส่งเสียงหรือหัวเราะดัง
คำศัพท์
สวัสดี                ซาลามัด ดาตัง
ฉันรักเธอ           ซายาจินตากันมู (Sayacintakan mu)
ขอบคุณ            เตริมา กะชิ
สบายดีไหม       อาปา กาบา
ยินดีที่ได้รู้จัก      เจมบิรา ดาปัด เบอเตมู อันดา(gembiradapatbertemuanda)
พบกันใหม่         เบอจัมปา ลากิ (berjumpalagi)
ลาก่อน               เซลามัต ติงกัล
นอนหลับฝันดี    มิมปิ๊ มานิส(mimpimanis)
เชิญ                  เม็นเจ็มพุด (menjemput)
ใช่                     ยา (ya)
ไม่ใช่                 ทีแด๊ก (tidak)
ไม่เป็นไร            ทีแด๊กอปาอาปา (tidakapa-apa)

การนับเลข
หนึ่ง      ซาตู (satu)
สอง      ดัว (dua)
สาม      ทิก้า (tiga)
สี่          เอ็มแพท (empat)
ห้า        ลิม่า (lima)
หก        อีนาม (enam)
เจ็ด       ทูจู (tujuh)
แปด      ลาพัน (lapan)
เก้า       เซ็มบิลัน (sembilan)
สิบ        เซปูลู (sepuluh)


แหล่งท่องเที่ยว
เมืองบินบันดาร์ เสรี เบกาวัน


พิพิธภัณฑ์โรยัลเรกกาเลีย

มัสยิดทองคำ


มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน


สวนสนุก Jerudong
หาด Muara


อนุสาวรีย์น้ำมันหนึ่งล้านบาร์เรล


พิพิธภัณฑ์บรูไน


เทศกาลสำคัญ
1. อาลุสญูวา ดินดัง(AlusJuaDendang)  คือการแสดงฟ้อนรำของชาวบรูไน เป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาจากสมัยโบราณ มักมีแสดงในงานแต่งาน มีนักเต้นทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำการฟ้อนรำและร้องเพลงประกอบ
2. เทศกาลเมาลิด เป็นคำนามเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งจะแปลความหมายเป็นเวลา หรือสถานที่นั้นย่อมขึ้นอยู่กับส่วนขยายภายในประโยค ดังนั้น เมาลิด หมายถึง สถานที่เกิดของท่านนบีอย่างแน่นอน นักวิชาการต่างมีความเห็นตรงกันว่า นบีมุฮัมหมัด (ซ.ล.) เกิดในวันจันทร์เดือน รอบีอุลเอาวัล ปีช้าง เพราะท่าน อิมามมุสลิมได้บันทึกหะดีษไว้ในหนังสือซ่อเฮียหของท่านจาก อบีกอตาดะฮรฎิฯ ว่าท่านร่อซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกถามเกี่ยวกับ การถือศีลอดในวันจันทร์ ท่านกล่าวว่า นั่นคือวันที่ฉันเกิด วันที่ฉันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนบี และเป็นวันที่อัลกรุอานได้ถูกประทาน มายังฉัน”  แต่จะตรงกับวันที่เท่าไหร่นั้น นักวิชาการมีความเห็นแตกต่างกัน ท่านอิบนุอิสหาก ผู้บันทึกชีวประวัติของท่านนบีคนแรกมีความเห็นว่า ท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ.ล.) เกิดในวันที่ 12 เดือนรอบีอุลเอาวัลท่านอิบนุฮิชาม ได้รายงานอยู่ในหนังสือชีวประวัติของท่านนบีมุฮัมหมัด (ซีเราะฮ.อิบนิฮิชาม)
3. เทศกาลกาไว ดายัค คือ เทศกาลเก็บเกี่ยวของชนเผ่าพื้นเมือง โดยเฉพาะชาวอิบันและบิดายูห์ ซึ่งจะสวมชุดประจำเผ่าของตนมาเข้าร่วมงานเฉลิมฉลอง ทำพิธีบูชาเทพแห่งข้าวและเทพแห่งความร่ำรวย และถวายอาหารพื้นเมืองหลายชนิดและตูอัค (เหล้าที่หมักจากข้าว) นี่คือเทศกาลที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติ ไม่ควรพลาด

ประเทศบรูไน : National Day of Brunei Darussalam (วันชาติบรูไน)






ทุกๆวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จะมีการเฉลิมฉลองวันชาติโดยจะมีขบวนพาเหรดในชุดหลากสีเเละมีการสวดมนต์ในแบบมุสลิมตามมัสยิดทั่วประเทศ





ประวัติศาสตร์บรูไน


บรูไนมีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7 มีหลักฐานที่เชื่อกันว่า บริเวณบรูไนในปัจจุบันเป็นอาณาจักรโปนิ (Po-ni) หรือโบนิ (Boni) แต่มาเป็นที่รู้จักกันมากในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยบรูไนเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญบนเกาะบอร์เนียวอยู่บนเส้นทางการค้าจากประเทศจีนผ่านโมลุกกะหรือหมู่เกาะเครื่องเทศไปสู่ประเทศตะวันตก และมีอาณาเขตครอบครองส่วนใหญ่ของเกาะบอร์เนียวและส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซูลู มีชื่อเสียงทางการค้า สินค้าส่งออกที่สำคัญในสมัยนั้น ได้แก่ การบูร พริกไทย และทองคำ

หลังจากนั้นบรูไนเสียดินแดนและเสื่อมอำนาจลง เนื่องจากสเปนและฮอลันดาได้แผ่อำนาจเข้ามา จนถึงสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในปี พ.ศ.2431 ด้วยความวิตกว่าจะต้องเสียดินแดนต่อไปอีก บรูไนจึงได้ยินยอมเป็นรัฐในอารักขาของประเทศอังกฤษ (British Protectorate) ตามข้อตกลง พ.ศ.2443 (Agreement 1888) และต่อมาในปี พ.ศ.2449 บรูไนได้ทำข้อตกลงกับประเทศอังกฤษอีกครั้ง คือ ข้อตกลงเสริม พ.ศ.2448 และ พ.ศ.2449 (Supplementary Agreement 1905 and 1906) และลงนามในสนธิสัญญายินยอมเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษอย่างเต็มรูปแบบในปี พ.ศ.2472

ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของบรูไนเริ่มจากการสำรวจแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในปี พ.ศ.2472 ทรัพยากรธรรมชาตินี้ได้เปลี่ยนเศรษฐกิจของประเทศจากการค้าพริกไทยและการบูรมาเป็นประเทศผู้ค้าน้ำมันปิโตรเลียม แม้จะประสบปัญหาการค้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เมื่อสงครามยุติ เศรษฐกิจก็กลับฟื้นคืนมาได้

ในปี พ.ศ.2501 ประเทศอังกฤษต้องการให้เกิด "สหพันธ์บอร์เนียวเหนือ” ซึ่งจะประกอบด้วย รัฐซาราวัก รัฐบอร์เนียวเหนือ และรัฐบรูไน แต่สุลต่านฮัจญี เซอร์ มูดา โอมาร์ อะลี ชัยฟุดดีน (Sultan Haji Sir Muda Omar Ali Saifuddin) สุลต่านของบรูไนในขณะนั้นทรงไม่เห็นด้วยเนื่องจากบรูไนมีทรัพยากรน้ำมันปิโตรเลียมขนาดใหญ่ หากเข้าร่วมเป็นสหพันธรัฐบอร์เนียวเหนือรายได้จากน้ำมันปิโตรเลียมจะต้องแบ่งให้ประชาชนส่วนอื่นนอกจากชาวบรูไน จึงทำให้ไม่เกิดสหพันธรัฐบอร์เนียวขึ้น ขณะเดียวกันกลับมีข้อเสนอให้รวมบรูไนเข้ากับรัฐต่างๆ ในคาบสมุทรมาลายูเป็นสหพันธรัฐมาเลเซียแทน สุลต่านโอมาร์ทรงเห็นด้วย เพราะชาวบรูไนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันกับมาลายู

ระหว่างการเจรจาดำเนินการจัดตั้งสหพันธรัฐมาเลเซียอยู่นั้น ในปี พ.ศ.2505 บรูไนจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป พรรครักยัตบรูไน/พรรคประชาชนบอร์เนียว (Parti Rakyat Brunei/Borneo People’s Party) ชนะการเลือกตั้ง และได้เสนอให้บรูไนรวมกับรัฐซาบาห์และรัฐซาราวักแต่สุลต่านโอมาร์ทรงคัดค้าน พรรครักยัตบรูไนจึงก่อกบฏขึ้น โดยมีกองทัพแห่งชาติกาลิมันตันภาคเหนือ ซึ่งเป็นกองทัพคอมมิวนิสต์เข้าร่วมสุลต่านโอมาร์ทรงขอกองทัพอังกฤษและกองทหารกูรข่าจากสิงคโปร์เข้าปราบรามจนสำเร็จ นับจากนั้นเป็นต้นมาบรูไนได้ปกครองภายใต้กฎอัยการศึก ส่วนการรวมรัฐเป็นสหพันธรัฐมาเลเซียนั้น ในช่วงท้ายของการเจรจาสุลต่านโอมาร์กลับทรงไม่เห็นด้วย และทรงต้องการให้บรูไนเป็นรัฐอิสระ แม้ต้องเป็นรัฐในอารักขาของประเทศอังกฤษต่อไปก็ตาม

ในปี พ.ศ.2511 สุลต่านโอมาร์ทรงสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรส คือ สุลต่านฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียะห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ (Sultan Haji Hassanal Bolkiah Mu’issaddin Waddalah) ซึ่งทรงปกครองประเทศมาจนถึงปัจจุบัน

บรูไนทำข้อตกลงกับประเทศอังกฤษอีกครั้งในปี พ.ศ.2514 ซึ่งบรูไนได้เป็นประเทศอิสระ แต่สุลต่านโบลเกียะห์ทรงขอให้ประเทศอังกฤษยังคงรับผิดชอบดูแลกิจการต่างประเทศและการป้องกันประเทศอยู่ก่อนจนกระทั่งถึงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2527 บรูไนจึงได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ และได้อิสรภาพจากการอารักขาอังกฤษเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2527





ขอขอบคุณข้อมูลจาก



http://www.bkkfly.com/N_brunai.html
http://www.shawpat.or.th/index.php?